วิธีการชำระเงิน B2B ข้ามพรมแดนยอดนิยมในเอเชีย
การจัดการการชำระเงินข้ามพรมแดนและการจัดการเงินทุนระหว่างประเทศอาจเป็นเรื่องยากสำหรับบริษัท B2B เมื่อคุณต้องการที่จะชำระเงินให้กับซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์, รับเงินจากลูกค้า และจ่ายค่าใช้จ่าย แต่ไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมที่สูง หรือใช้ระบบการชำระเงินที่ไม่ปลอดภัยและติดตามได้ยาก
ธุรกิจ B2B ในเอเชียพบว่ามันยากเป็นพิเศษ เพราะมีสกุลเงินที่แตกต่างกันมากมาย นอกจากนี้ยังมีเศรษฐกิจที่หลากหลาย บางแห่งมีการพัฒนาอย่างสูง เช่น สิงคโปร์และจีน ขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซียยังคงเป็นประเทศกำลังพัฒนาอยู่
จากการที่ประเทศต่างๆ มีตัวเลือกการชำระเงินที่แตกต่างกันตั้งแต่บัตรเครดิตไปจนถึงอีวอลเล็ต โดยแต่ละประเทศใช้แพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ผู้บริโภคในหลายประเทศก็ชอบเงินสดมากกว่า ซึ่งส่งผลต่อตัวเลือกของคุณสำหรับการทำธุรกรรม B2B แต่โซลูชั่นการชำระเงินดิจิทัลแบบใหม่ เช่น Payoneer สามารถช่วยให้คุณจัดการกับเศรษฐกิจและความชอบที่แตกต่างกันทั้งหมดได้
ยิ่งคุณรู้เกี่ยวกับการชำระเงิน B2B ที่แตกต่างกันในเอเชียมากเท่าใด คุณก็จะสามารถเลือกระบบการชำระเงินที่ง่าย, ต้นทุนต่ำ และปลอดภัยที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณได้ดียิ่งขึ้น
บัตรเครดิต
บัตรเครดิตเป็นตัวเลือกที่นิยมมากที่สุดสำหรับการชำระเงินออนไลน์ระหว่างประเทศและในประเทศ ในญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และไต้หวัน แม้ว่าในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการทำธุรกรรมภายในประเทศ แต่พวกเขาก็ยังใช้สำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศในประเทศจีนด้วยเช่นกัน
การชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทำได้ง่าย, ติดตามได้ง่าย และเงินมักจะเคลียร์ได้ค่อนข้างเร็ว หลายธุรกิจจึงมักชอบบัตรเครดิตมากกว่า เนื่องจากมีเวลาหน่วงระหว่างการชำระเงินและการมีเงินออกจากบัญชีของคุณ ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องกระแสเงินสดได้
แต่ในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ประเทศเหล่านี้ไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ไม่มีบัญชีธนาคาร และบัตรเครดิตต้องใช้เอกสารจำนวนมาก คิดว่าผู้ใหญ่กว่า 174 ล้านคนในเอเชียไม่มีบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต และในอินโดนีเซีย มีเพียง 4% ของประชากรที่ใช้บัตรเครดิต
แม้แต่ประเทศที่มีประวัติการใช้บัตรเครดิตก็เริ่มหมดรักเพราะมีค่าธรรมเนียมที่สูง และตัวเลือกการชำระเงินที่ใหม่กว่า เช่น การชำระเงินผ่านมือถือและอีวอลเล็ตนั้นสะดวกกว่ามาก
อีวอลเล็ต
หลายประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังกระโดดจากเงินสดไปยังอีวอลเล็ตโดยตรง ซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่าการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตในอินเดียและอินโดนีเซีย โดยประเทศต่างๆ มีแพลตฟอร์มที่ชื่นชอบต่างกันไป เช่น Paytm ซึ่งนักช็อป 85% ในอินเดียใช้, TrueMoney ในประเทศไทย และ PayPay และ RakutenPay ในญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า 84% ของผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีบัญชีธนาคารอยู่แล้ว และ 58% ของผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารจะใช้อีวอลเล็ตภายในปี 2025
แต่อีวอลเล็ตก็มีข้อเสียเช่นกัน เนื่องจากเอเชียมีผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลหลายรายซึ่งไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ดี และผู้ให้บริการส่วนใหญ่ก็ให้บริการเพียงสกุลเงินเดียว ดังนั้นจึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะใช้สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน และผู้ให้บริการบางรายก็มีความปลอดภัยน้อยกว่าผู้ให้บริการรายอื่น นอกจากนี้ หลายๆ แห่งยังมีเครื่องมือติดตามที่ไม่ดี ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับการชำระเงินของคุณ หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
การชำระเงินดิจิทัล
การชำระเงินด้วยรหัส QR และการชำระเงินผ่านมือถือเป็นเทรนด์การชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย รวมถึงจีน, อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งผู้บริโภคและผู้ซื้อ B2B ต่างก็ชื่นชม เพราะสะดวกและใช้งานง่ายมาก และคุณไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร โดยการที่ผู้ค้าเสนอรหัส QR สำหรับการชำระเงินผ่านมือถือนั้น ถูกกว่าการรองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต มันได้รับความนิยมอย่างมากในอินเดีย แม้แต่ธนาคารกลางก็ได้เปิดตัวแอปชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน และในประเทศจีน วิธีที่นิยมที่สุดในการชำระเงินสำหรับธุรกรรมอีคอมเมิร์ซคือ AliPay และ WeChat Pay
แต่สำหรับตอนนี้ โดยทั่วไปแล้ว การชำระเงินผ่านมือถือในเอเชียมักใช้เฉพาะในตลาดภายในประเทศ เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่จำกัดสำหรับแพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือจากการสนับสนุนธุรกรรมข้ามพรมแดน โดยโซลูชั่นการชำระเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่ไม่ได้อิงตามแอปสามารถทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ และเป็นหนึ่งในวิธีการชำระเงินที่ใช้บ่อยที่สุด ซึ่งการชำระเงินทางดิจิทัลกำลังผลักดันบัตรเครดิตออกไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชำระเงินข้ามพรมแดนซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมสูง
โอนเงินผ่านธนาคาร
การโอนเงินผ่านธนาคารมักจะปลอดภัยและติดตามได้ง่าย แต่อาจมีค่าธรรมเนียมราคาแพง และบางครั้งอาจใช้เวลานานกว่าจะเคลียร์ โดยในเอเชีย การโอนเงินผ่านธนาคารผ่านบริการชำระเงินแบบเดิมอย่าง SWIFT นั้นไม่ได้รับความนิยมมากนัก
มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ที่ยังเห็นการโอนเงินผ่านธนาคารสำหรับการทำธุรกรรมในเปอร์เซ็นต์ที่มีนัยสำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกรรมข้ามพรมแดน โดยในกรณีเหล่านี้ พวกเขามักจะใช้การโอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์แบบดิจิทัล ซึ่งบริการโอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์เป็นวิธีการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในมาเลเซีย
วิธีที่ง่ายขึ้นในการจัดการชำระเงิน B2B ระหว่างประเทศ
โซลูชั่นการชำระเงินออนไลน์ของ Payoneer ช่วยให้ธุรกิจ B2B ในเอเชียสามารถชำระเงินข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำ โดยผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดของ อีวอลเล็ต, บัตรเครดิต และการโอนเงินผ่านธนาคาร เข้ากับการแปลงสกุลเงินที่มีต้นทุนต่ำ Payoneer ถูกรวมเข้ากับสองกระเป๋าสตางค์หลักของเอเชียคือ G-Cash (ฟิลิปปินส์) และ JazzCash (ปากีสถาน) ทำให้ผู้ที่ถืออีวอลเล็ตเหล่านี้ สามารถส่งและรับชำระเงินระหว่างประเทศได้ง่ายขึ้น
เมื่อคุณมีบัญชี Payoneer แล้ว ก็สามารถทำงานเหมือนกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งให้ความยืดหยุ่นในการใช้เงินของคุณได้ทุกที่และทุกเวลาที่คุณต้องการ โดยสามารถชำระเงินให้กับผู้ใช้ Payoneer รายอื่นผ่านเครือข่ายในสกุลเงินท้องถิ่นมากกว่า 150 สกุลเงินฟรี นอกจากนี้ Payoneer ยังมีบัญชีรับเงินเป็นดอลลาร์ฮ่องกง, ดอลลาร์สิงคโปร์, ดอลลาร์ออสเตรเลีย, เยนญี่ปุ่น และหยวนจีน ดังนั้นคุณจึงสามารถให้รายละเอียดบัญชีในประเทศแก่ลูกค้าในแต่ละตลาดได้
คุณสามารถใช้ Payoneer เพื่อรับชำระเงินและทำการชำระเงินให้กับแพลตฟอร์มการชำระเงินยอดนิยมทั้งหมดในเอเชียได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต, การชำระเงินแบบดิจิทัล และการถอนเงินสดด้วยต้นทุนต่ำ